ขั้นตอนการปลูกเรือน
เมื่อได้ทำการจัดหาเตรียมเครื่องเรือนที่เรียกกันว่า “การครัวไม้” โดยทำการท่าวร่างทดลองปลูกดูก่อน แล้วจึงรื้อลงมาจัดผูกแยกเป็นกองๆ เพื่อรอการปลูก ต่อมาเจ้าของเรือนจะต้องไปหาปู่อาจารย์ให้ท่านช่วยดูฤกษ์ดูวันในการที่จะปกเรือน เมื่อได้วันกำหนดที่แน่นอนแล้ว เจ้าของเรือนจะออกไปขอแรงจากเพื่อนบ้าน ญาติพี่น้องให้มาช่วยปกเรือน เพราะชาวบ้านสมัยก่อนเป็นช่างปลูกเรือนเหมือนกันเกือบทุกคนโดยขอไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย ๓ วัน ส่วนฝ่ายหญิงจะไปบอกญาติพี่น้องของฝ่ายตนให้ช่วยทำอาหารเลี้ยงคนที่มาช่วยงาน ก่อนที่จะทำการปกเรือน เจ้าของเรือนจะต้องสำรวจดูพื้นที่ๆจะปลูกเรือนก่อนว่าตรงไหนจะดีมากน้อยประการใด โดยมีขั้นตอนต่างๆได้แก่
การดูความสูงต่ำของพื้นที่
ศรีเลา เกษพรหม (๒๕๓๙, หน้า ๑๐๒-๑๐๖) อธิบายการดูความสูงต่ำของพื้นที่ โดยให้ดูพื้นดินที่มีความสูง และลาดเทไปยังทิศต่างๆดังนี้
- พื้นดินสูงทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ต่ำทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ถือว่า ดี
- พื้นดินต่ำทางเหนือ สูงทางทิศใต้ ถือว่า ดี
- ถ้าพื้นดินสูงทุกด้าน เรียกพื้นที่นั้นว่า สุชาตา ถือว่าดีมาก
- พื้นดินสูงทางทิศใต้ต่ำทางทิศเหนือ ดีมาก
- พื้นดินสูงทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ต่ำทางทิศตะวันตก ถือว่าดี
การดูจากการเสี่ยงทาย
ดูการเสี่ยงทายว่าที่ดินตรงไหนจะดีหรือไม่ดี โดยทำควัก หรือกระทงใบตอง ๓ อัน อันแรกใส่ข้าวเหนียวสุก อันที่ ๒ใส่ข้าวเหนียวที่ทาหรือคลุกด้วยปูนแดงให้มีสีแดง เรียกว่า ข้าวแดง อันสุดท้ายข้าวเหนียวสุกทาหรือคลุกด้วยหมิ่นหม้อให้มีสีดำเรียกว่า ข้าวดำ แล้วนำไปวางไว้ในบริเวณที่จะปลูกเรือน จากนั้นให้อธิษฐานขอให้มีสิ่งแสดงบอกเหตุดีหรือไม่ดีตามความปรารถนา หรือกล่าวคำโวหารที่ปรารถนา ทิ้งไว้สักครึ่งหรือ ๑ วันแล้วจึงไปดูควักใบตองทั้ง ๓ ว่ามีสัตว์มากินหรือตอมหรือไม่ หากเป็นข้าวที่เป็นสีขาวไม่ได้คลุกด้วยสิ่งใด ถือว่าเป็นที่ปลูกเรือนได้ดีมาก ถ้าสัตว์หรือแมลงมากิน ข้าวแดงดีปานกลาง ถ้ากินข้าวสีดำถือว่าไม่ดี
อีกวิธีหนึ่ง เอาใบฝาแป้งมา ๘ ใบ ใบ ๑ ห่อดิน ใบ ๑ ห่อเปลือกไม้ ใบ ๑ ห่อผมยุ่ง เมื่อพร้อมก็นำขันข้าวตอกดอกไม้พร้อมสิ่งต่างๆไปสู่งบริเวณที่จะปลูกเรือน แล้วตั้งอธิษฐานดังนี้ “โอกาสะ พรหมเทวดา รุกขเทวดา ติณณปัพพเทวดา อากาสเทวดา บัดนี้ผู้ข้า พ่อแม่ ลูก ผัวเมีย มีประมาณเท่านี้ จักมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่นี้ ยังจักเพิงใจเทวดาทังหลายอั้นชา คันยังจักอยู่วุฒิเจริญใจแก่ตูข้าทังหลายดังอั้น ก็ขอหื้อหยุบได้ห่อที่ดี คันตูทังหลายยังจักอยู่บ่วุฒิเจริญใจดังอั้น ก็ขออย่าได้หยุบเอาห่อที่บ่ดีนั้นเทอะ “ ว่าแล้วจึงกล่าวคาถาว่า “นมามิ สิรสา นาถัง สัสสธรรมคนุตตมัง อิทัมปินิตโต ทิพพจักขุงวปัสสติ” แล้วจึงจับเอาห่อสิ่งนั้นขึ้นมา ๑ ห่อ เปิดดู ถ้าได้ห่อดอกไม้ ห่อข้าวเปลือก ห่อหิน ห่อดิน ดีมากควรอยู่ที่นั้น ถ้าจับได้ห่อเปลือกไม้ ห่อผมยุ่ง ห่อปีกไก่ และห่อถ่านไฟ ไม่ดีไม่ควรอยู่
อีกวิธีหนึ่ง ถ้าจะปลูกเรือนที่ใด ให้ถางหญ้าตรงกลางบริเวณนั้นกว้างประมาณ ๑ ศอก แล้วเอาไม้แหลมเป็นหลักยาว ๑ ฝ่ามือ นำไปตอกไว้ที่ตรงนั้นให้โผล่พ้นดินประมาณนิ้วหัวแม่มือ เอาเม็ดข้าวเปลือกมาเรียงกับดิน เอาหัวเข้าหาหลักนั้นจนรอบ เอาหม้อใหม่มาครอบไว้ แล้วกลบปากหม้อให้มิดชิดไม่ให้แมลงเข้าไปข้างในได้ แล้วเอาควักวางแม่ธรณี อธิษฐานต่อเทวดาและธรณีที่นั้นว่า “คันผู้ข้าทังหลายจักแปลงบ้านเรือนอยู่ที่นี้ ยังจักอยู่ดีมีสุขดังอั้นก็ขอหื้อข้าวเปลือกที่หลักนี้อย่าได้ฟุ้งไปทางใดเทอะ คันผู้ข้าทังหลายจักอยู่ไม่สบายก็ขอหื้อเม็ดข้าวเปลือกกระเด็นแตกฟุ้งไป จิ่มเทอะ” เมื่อถึงอีกวันก็ให้ไปเปิดหม้อดู ถ้าเม็ดข้าวกระเด็นฟุ้งไป ที่ตรงนั้นไม่ดีอย่าได้อยู่ ถ้าเม็ดข้าวขึ้นอยู่บนปลายหลักก็ยังดีอยู่ ถ้าเม็ดข้าวไม่แตกกระจายให้อยู่ที่นั้น ดีมาก