|
|
ผักจ้ำ
|
|
| กลึงกล่อม มะจ้ำ ผักจ้ำ กำจาย (ภาคเหนือ) มงจาม (อ่างทอง) ผักจ้ำ น้ำน้อย (เลย) น้ำนอง (ปัตตานี) ท้องคลอง (ราชบุรี) ชั่งกลอง (ราชบุรี) ช่องคลอง (กาญจนบุรี) จิงกล่อม (ภาคใต้) ไคร้น้ำ (อุตรดิตถ์) กระทุ่มกลอง กำจาย (นครสวรรค์) กระทุ่มคลอง (สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 2550; วุฒิ วุฒิธรรมเวช, 2540, 116)
กำจายต้น ท้องคลอง (วุฒิ วุฒิธรรมเวช, 2540, 116)
| |
|
| เป็นไม้พุ่มขนาดย่อม สูง 2-4 เมตร เปลือกต้นสีน้ำตาลแดง เป็นร่องๆ เหมือนรางแดง
ใบเดี่ยว รูปใบหอกแกม ปลายและโคนแหลม ยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร ดอกเดี่ยวๆ สีเหลืองนวล กลีบนอกสีน้ำตาลแดง ออกตามง่ามใบ ผลกลุ่ม เป็นผลกลุ่ม ทรงกลม ผลย่อยกลม มีก้านคล้ายคล้องตีกลอง เดตามริมแม่น้ำลำธารทั่วไป ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด (วุฒิ วุฒิธรรมเวช, 2540, 116)
| |
|
|
ไม่มีข้อมูลสารอาหาร
ทางอาหารสำหรับชาวล้านนานั้น นิยมนำผักจ้ำมาเป็นส่วนผสมของอาหารประเภทส้า เช่น ส้าผักรวม ส้าผัก เป็นผักสดจิ้มน้ำพริก หรือลาบ (ศรีวรรณ จำรัส, 2550, สัมภาษณ์)
|
ใบและกิ่ง พบสาร suberosol ซึ่งมีฤทธิ์ต้านเชื้อ HIV ที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ในหลอดทดลอง
รากและเนื้อไม้ ต้มดื่มแก้ไข้ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้น้ำเหลืองเสีย ขับพิษภายใน
(วุฒิ วุฒิธรรมเวช, 2540, 116)
| |
|
|
|
|
|
|
วุฒิ วุฒิธรรมเวช. (2540). สารานุกรมสมุนไพร: รวมหลักเภสัชกรรมไทย. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์. ศรีวรรณ จำรัส. (2550). สัมภาษณ์. 18 มิถุนายน. สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. กลึงกล่อม. ฐานข้อมูลสมุนไพร. ค้นวันที่ 15 กันยายน 2550 จาก http://thaiherb.most.go.th/plantdetail.php?id=47 | |
|
|
|
|
|