|
|
แค
|
|
| แคบ้าน แค (ภาคกลาง) แคแดง แคขาว (ภาคเหนือ) แคดอกแดง แคดอกขาว (กัญจนา ดีวิเศษ และคณะ, 2542, 59)
| |
|
| เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยขนาดเล็กรูปไข่งู ดอกโตกลีบบาง แคขาวดอกสีขาว แคแดง คอกสีแดงเข้ม ฝักแบบยาวเหมือนถั่ว เมื่อแก่จะแตกออก ปลูกเพื่อใช้ประกอบอาหาร (วุฒิ วุฒิธรรมเวช, 2540, 156) | |
|
|
ดอกมีฟอสฟอรัส โซเดียม วิตามินซี (ผักพื้นบ้าน อาหารไทย, 2548, 146) เหล็ก แคลเซียม โปรตีน วิตามินบี (จีรเดช มโนสร้อย และอรัญญา มโนสร้อย, 2537, 82)
ยอดอ่อนและใบอ่อน ลวกเป็นผักจิ้มน้ำพริก ดอก นำไปแกงส้ม ต้มจืด แกงคั่ว หรือแกงอ่อม (อีสาน) ชาวล้านนา นิยมใช้เป็นเครื่องปรุงแกงแค คั่วแค แกงโฮะ และลวกจิ้มน้ำพริก
|
ใบอ่อน และยอดอ่อน ช่วยถอนพิษไข้ดับร้อน ส่วนดอกแค แก้ไข้หัวลม (ผักพื้นบ้าน อาหารไทย, 2548, 146)
ข้อบ่งใช้ทางเภสัชกรรมล้านนา เป็นส่วนประกอบในตำรับยาเกี่ยวขึ้นเป็นลมสรุปเส้น ยามุดขึดลม
ข้อบ่งใช้ทางการแพทย์แผนปัจจุบัน-แผนไทย ยอดอ่อนแก้ไข้หัวลม (หรือไข้เปลี่ยนอากาศ โดยให้ลวกจิ้มน้ำพริก ดอกเป็นผักมีคุณค่าทางอาหารสูง เปลือกต้น แก้ท้องเดิน แก้ธาตุพิการ (เปลือกต้น1 ผ่ามือ ประมาณ 20 25 กรัม ปิ้งไฟ 1 ส่วน ต้มกับน้ำ หรือน้ำปูนใส 10 ส่วน รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนแกง วันละ 4 เวลา) แต่ถ้ารับประทานมากๆ จะอาเจียน รากใช้แก้โรคปวดข้อ น้ำจากรากผสมน้ำผึ้ง ใช้เป็นยาขับเสมหะ ใช้ดอกสด 7-15 ดอก ต้มกับหมูทำเป็นบะช่อ 1 ชาม รับประทาน 1 มื้อ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น รับประทานติดต่อกัน 3-7 วัน จะได้ผลในการแก้อาการปวดศรีษะข้างเดียว (ลมตะกัง) นำเปลือกต้นมาสับ เติมน้ำพอท่วม เกลือเล็กน้อย ใช้ล้างแผลที่เป็นชันนะตุ วันละ 3 ครั้ง จะทำให้แผลสะอาดขึ้น (จีรเดช มโนสร้อย และอรัญญา มโนสร้อย, 2537, 69)
| |
|
| ตลอดปี | |
|
|
|
|
กัญจนา ดีวิเศษ และคณะ, ผู้รวบรวม. (2542). ผักพื้นบ้านภาคกลาง. นนทบุรี: โครงการพัฒนาตำรา สถาบันการแพทย์แผนไทย. จีรเดช มโนสร้อย และอรัญญา มโนสร้อย. (2537). เภสัชกรรมล้านนา: ตำรับยาสมุนไพรล้านนา. กรุงเทพฯ: สถาบันการแพทย์แผนไทย. ผักพื้นบ้าน อาหารไทย. (2548). กรุงเทพฯ: แสงแดด. วุฒิ วุฒิธรรมเวช. (2540). สารานุกรมสมุนไพร: รวมหลักเภสัชกรรมไทย. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์. | |
|
|
|
|
|