|
|
ผักคาวตอง
|
|
| ผักคาวตอง (เชียงใหม่) พลูคาว (ภาคกลาง) (กัญจนา ดีวิเศษ และคณะ, 2548, 115) | |
|
| ต้น เป็นไม้เลื้อยขนาดเล็ก สูงประมาณ 3-12 นิ้วฟุต มีลำต้นตั้งตรง สีเขียวอมม่วง ส่วนที่เลื้อยทอดไปตามดินจะมีรากแขนงออกตามข้อ
ใบ ใบเดี่ยวรูปไข่สีเขียวอมม่วง หนากลมเรียงสลับ ปลายใบแหลมและหนา ยาว 1-1.5 นิ้ว ขยี้ดมจะรู้สึกเหม็นคาวเหมือนคาวปลาช่อน
ดอก ออกเป็นช่อตรงปลายยอด ประกอบด้วยดอกที่ไม่มีก้านดอก มีขนาดเล้กและไม่มีกลีบแต่มีกลีบเลี้ยงสีขาว เกสรเป็นกระจุกสีเหลืองนวล
ผล เป็นผลแห้งแตกได้ (กัญจนา ดีวิเศษ และคณะ, 2548, 115)
| |
|
|
ไม่มีข้อมูลสารอาหาร
ทางอาหารสำหรับชาวล้านนานั้น ใช้ยอดอ่อนและใบอ่อน เป็นเครื่องเคียงลาบต่างๆ โดยเฉพาะลาบหมู
|
ทั้งต้น แก้กามโรค เข้าข้อ แก้โรคผิวหนัง น้ำเหลืองเสีย ทำให้แผลแห้ง ฆ่าเชื้อโรคทางเดินปัสสาวะ ขับปัสสาวะ ทาภายนอกให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนัง ใบ แก้กามโรค ทำให้น้ำเหลืองแห้ง แก้เข้าข้อ แก้โรคผิวหนัง (วุฒิ วุฒิธรรมเวช, 2540, 317)
ข้อควรระวัง ไม่ควรรับประทานมากนัก เพราะทำให้หายใจสั้นและถี่ อาจเป็นอันตรายได้ แต่เคยมีการทดลองโดยเภสัชกร และยืนยันว่า ผักคาวตองมีพิษน้อยมาก (รัตนา พรหมพิชัย, 2542, 1316)
| |
|
| ตลอดปี | |
|
|
|
|
กัญจนา ดีวิเศษ และคณะ, ผู้รวบรวม. (2548). ผักพื้นบ้านภาคเหนือ. เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ บรรณาธิการ. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี: ศูนย์พัฒนาตำราการแพทย์แผนไทย. รัตนา พรหมพิชัย. (2542). คาวตอง, ผัก. ใน สารานุกรมวัฒนธรรมไทยภาคเหนือ (เล่ม 3, หน้า 1316-1317). กรุงเทพฯ: มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์. วุฒิ วุฒิธรรมเวช. (2540). สารานุกรมสมุนไพร: รวมหลักเภสัชกรรมไทย. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์. | |
|
|
|
|
|