|
|
กานพลู
|
|
| จันจี่ (ภาคเหนือ) (วุฒิ วุฒิธรรมเวช, 2540, 102; กรมส่งเสริมการเกษตร. กองส่งเสริมพืชสวน. กลุ่มพืชสมุนไพรและเครื่องเทศ, 2550) | |
|
| ไม้ยืนต้นขนาดกลาง อาจพบสูงถึง 12 เมตร รูปหอกปลายและโคนเรียวแหลม สีเขียวจัดแข็งหนาเป็นมัน กลิ่นหอมเผ็ดร้อนคล้ายใบแก้วแต่โตกว่า ดอกเป็นช่อสีเขียวอมแดง ผลเล็กลมยาว 1 เซนติเมตร สีน้ำตาลเข้ม นิยมเก็บดอกตูมมาใช้ทำยา เป็นพืชพื้นเมืองของหมู่เกาะ Molucca ปัจจุบัน Madagascar Brazil Penang เป็นแหล่งป,กกานพลูที่ใหญ่ที่สุด กานพลูชอบอากาศร้อนชื้น ฝนตกชุก เช่น ตามชายฝั่งทะเล ปลูกได้จนถึงระดับความสูง 900 เมตร ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ต้องเพาะทันที ถ้านานเกิน 1 สัปดาห์ อัตราการงอกจะลดลงอย่างรวดเร็ว กานพลูจะเริ่มออกดอก เมื่ออายุประมาณ 8 ปี ปริมาณของดอกจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมากที่สุดเมื่ออายุ 15-20 ปี และมีอายุถึง 60 ปี ต้นหนึ่งๆ ให้ดอกกานพลูแห้ง 4-8 กิโลกรัมต่อปี (วุฒิ วุฒิธรรมเวช, 2540, 102) | |
|
|
ดอกกานพลู มีสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงฟันและกระดูกให้แข็งแรง (วุฒิ วุฒิธรรมเวช, 2540, 102) |
ดอก รสเผ็ดร้อนปร่า กระจายเสมหะ แก้เสมหะเหนียว แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้หืด ทำอาหารให้งวด แก้ปวดฟัน แก้รำมะนาด แก้ปวดท้อง แก้ลม แก้เหน็บชา แก้พิษโลหิต พิษน้ำเหลือง ขับน้ำคาวปลา ทำอุจจาระให้ปกติ ดับกลิ่นกล้า แก้ธาตุทั้ง 4 พิการ แก้ท้องขึ้น กดลมให้ลงสู่เบื้องต่ำ น้ำมันกานพลู เป็นยาชาเฉพาะที่ ระงับการกระตุก ขับผายลม แก้ปวดท้อง แก้ท้องขึ้น แก้ปวดฟัน ผสมยากลั้วคอ แต่งกลิ่นอาหาร ขนม เครื่องดื่ม สบู่ยาสีฟัน ยาดับกลิ่น ไล่ยุงได้ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรคได้หลายชนิด เช่น แบคทีเรีย E.coli ที่ทำให้เกิดโรคไทฟอยด์ ทำให้เกิดบิดชนิดไม่มีตัว ที่ทำให้เป็นหนอง และฆ่าพยาธิ Trichomonas vaginalis ที่เป็นสาเหตุของตกขาว ต้านอาการโลหิตจางจากการเสียเลือด ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา 6 ชนิด รวมทั้งกลาก พบว่าไม่มีการดื้อยา ไม่อาการระคายเคือง มีฤทธิ์เร่งการขับน้ำดี เติมในน้ำมันหรือไขมัน กันเหม็นหืน นอกจากนี้ ยังสามารถสกัดน้ำมันจากส่วนต่างๆ ของต้นกานพลู เช่น น้ำมันก้านกานพลู น้ำมันใบกานพลู น้ำมันลูกกานพลู ในทางเภสัชกรรม ใช้น้ำมันจากดอกตูมของกานพลูเท่านั้น น้ำมันดอกกานพลูที่ดี จะไม่มีสี หรือมีสีเหลืองอ่อน (วุฒิ วุฒิธรรมเวช, 2540, 102)
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|