Find Picture of      By     
Thai Version English Version
หน้าแรก
       
 
ดูภาพตามหมวดหมู่ ความเป็นมา บุญเสริม สาตราภัย อดีตล้านนาจากภาพถ่าย ผู้มีอุปการะคุณ เพิ่มรูปของคุณ ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
  
  นักศึกษาและคณาจารย์ เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระบรมราชินีนาถฯ ณ พระตำหนัก ภูพิงค์ราชนิเวศน์
กลับไปหน้าแสดงรายการภาพ  

คลิกที่รูปด้านบนเพื่อดูรูปขนาดใหญ่



นักศึกษาและคณาจารย์ เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระบรมราชินีนาถฯ ณ พระตำหนัก ภูพิงค์ราชนิเวศน์
หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ เชียงใหม่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว; สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ; พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์
-

พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักศึกษา และอาจารย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๙
            “เรารู้สึกดีใจมากที่ได้มีโอกาสต้อนรับนักศึกษา และคณะอาจารย์ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และในโอกาสนี้ก็ขอขอบใจที่นักศึกษา และคณะครูได้ช่วยเหลือเราในกิจการต่างๆ แม้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะได้ตั้งมาเป็นทางการเพียงเป็นเวลาปีเศษๆ นี้ ก็ได้ช่วยในกิจการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง และให้กำลังใจมาตลอด การที่นักศึกษาทั้งหลายเข้าใจถึงประโยชน์ที่ต้องทำเพื่อส่วนรวม เพราะว่าส่วนรวมนั้นก็คือประเทศชาติของเรา เราต้องสร้างด้วยตัวเราเอง ถ้าเข้าใจเช่นนี้แล้วก็นับว่าได้ทำหน้าที่อย่างหนึ่งแล้วของผู้ที่มีโอกาสเล่าเรียน การเล่าเรียนนั้นก็เห็นได้ชัดแล้วในตราของมหาวิทยาลัย ซึ่งมีช้างซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเชียงใหม่นี้ ถือคบไฟคือแสงสว่าง แสงสว่างที่เปรียบเทียบความรู้นั้นก็เป็นแสงสว่างชนิดหนึ่งซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่ง อย่างเช่นเดี๋ยวนี้นี่เขาเปิดไฟพอดีก็ได้เห็นหน้าคนที่อยู่ข้างล่าง แต่เขาเปิดไฟนี่ก็สำหรับถ่ายรูป ถ่ายหนัง นี่ปิดแล้ว ปิดแล้วก็มืดไม่เห็นแต่ว่าแสงสว่างที่ได้จากความรู้นั้น เมื่อเปิดแล้วเราเห็น แล้วก็อีกข้อหนึ่ง คือว่าที่เขาเปิดไฟปิดไฟนี่ เราไม่สามารถที่จะควบคุมได้ เพราะเดี๋ยวเขาอยากถ่ายหนังก็เปิดไฟ เขาเกิดคึกไม่อยากถ่ายหนังเขาก็ปิด เราก็ตาลายไปหมด ตอนนี้ปิดอีกแล้ว ก็ถ้าเรามีไฟของเราเองเราก็เห็นทาง ไม่ต้องอาศัยไฟของใครแล้วก็ถ้าอาศัยไฟของใครก็อาจจะเห็นได้เหมือนกัน คือ คนที่มีความรู้น้อยก็พอจะอาศัยไฟของคนอื่น แต่คนอื่นนั้นถ้าเขาหวังดีเขาก็ฉายไฟไปในทางที่ดี ถ้าเขาไม่หวังดี หรือไม่ใช่เรื่องของเขา เขาก็ฉายไฟใส่ตาเราอย่างตะกี้ ท่านอาจารย์ต่างๆ นั้นก็มองอะไรไม้เห็นแล้วอาจจะสะดุดอะไรหกคะเมนได้ นี่ก็เป็นเรื่องเปรียบเทียบ เปรียบเทียบกับความรู้เช่นเดียวกัน ที่จริงแม้จะเป็นไฟหรือแสงสว่างต่างกับไฟฟ้าที่ฉายก็เป็นเช่นนั้น คือว่าแต่ละตรๆ ก็มีไฟฉายของตนคือความรู้เท่าที่มี แล้วก็ต้องใช้เพราะว่า ถ้ามีความรู้แล้วก็ไม่ใช้ ก็เสมือนว่าคนอื่นจะชักจูงเราไปได้ ถ้าเรามีความรู้มากก็ต้องมีหน้าที่อีกอย่าง คือฉายให้คนอื่นในทางที่ถูก ในทางที่จะให้เขาเดินไม่สะดุดไม่หกคะเมน ก็ช้างถือไฟก็เท่ากับมหาวิทยัลยได้ให้ความรู้ ที่จริงก็ไม่ใช่มหาวิทยาลัยก็คือคณะอาจารย์ ซึ่งได้รับความรู้มาก่อนนี้ เดี๋ยวนี้ก็ทำหน้าที่ที่จะชี้ทางให้ผู้ที่เป็นศิษย์ให้ได้มีแสงสว่างประจำตัว ก็ได้รับจากมหาวิทยาลัยนี่แหละ ความรู้ก็ต้องพยายามที่จะใช้ในทางที่ถูก เพื่อให้สร้างประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าและถ้าเกิดความเจริญก้าวหน้า และความปลอดภัยของประเทศชาติ เราทุกคนก็อยู่ได้ นี่เป็นใจความสำคัญของเรื่องแสงไฟ ถ้าจะเปรียบเทียบต่อไปอีกก็ได้อีกหลายอย่างเกี่ยวข้องกันทั้งคุณประโยชน์ และทั้งอันตรายของแสงไฟ ซึ่งก็ได้พูดไว้อย่างหนึ่งแล้ว คือว่าถ้าแสงไฟไม่พอ คนอื่นฉายไฟใส่ตาเรา ตาเราพร่านี่อย่างหนึ่ง แต่ก็อีกอย่าง ไฟก็หมายถึงความร้อน ถ้าเราใช้ความร้อนที่ดีในทางที่เป็นประโยชน์ก็ดี แต่ว่าถ้าใช้ในทางที่ไม่ดีก็อาจจะเผาผลาญเกิดอันตรายก็ได้ ก็เอาไว้เอาไปคิด ตามที่อาจารย์บัวเรศ ว่าขอโอวาทก็ให้แค่นี้ เรื่องไฟก็ต้องระวังนิดหน่อย แล้วก็เดี๋ยวเชิญรับประทานอาหาร ก็ต้องปีนขึ้นภูเขานั่น ใครมีแรงมากก็ปีนได้เร็ว ใครมีแสงสว่างมากก็เห็นทาง แต่ว่าแสงสว่างนี้ วันนี้ก็อาจจะมืดหน่อยต้องระวังไปเหยียบต้นไม้ เพราะว่าแถวนี้รู้สึกว่าปลูกต้นไม้ไว้สวยงาม เราก็หวงเหมือนกัน แต่ว่าตามสบายเพราะอาหารอยู่ข้างบน คงหิว แล้วก็ข้างบนมีกองไฟ คนที่ขึ้นมาที่นี่แล้วก็นึกว่าบนภูพิงค์นี่นะอากาศคงอบอุ่นสบาย ก็ไม่ได้เอาเสื้อมา ก็ต้องไปอาศัยกองไฟที่จะให้มีความอบอุ่นไม่ใช่กองไฟสำหรับดูทางแต่ว่าสำหรับความอบอุ่น ต่อไปนี้เชิญเดินด้วยความระมัดระวังและไปรับประทานอาหารให้อิ่มหนำสำราญ คือมีคำแนะนำจากแม่บ้าน”
             “ใครหนาวก็ไปรับประทานในตึกนั้นได้ เตรียมไว้แล้ว แบ่งอาหารแล้วไปรับประทานในนั้น” (พระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ)
             “ที่มานี่ก็ขอให้ถือว่าเป็นกันเอง แล้วก็ให้ตามสบาย เพื่อให้ครึกครื้นสนุกสนานมีกำลังที่จะเรียนหนังสือต่อไป แล้วก็เกี่ยวข่องกับเรียนหนังสือก็คงต้องเป็นห่วง คงหนาวใจเรื่องสอบไล่ ถ้ามีกำลังใจก็เชื่อว่าสอบไล่ได้ เพราะว่าพูดทีไรนักศึกษาถามว่าเป็นยังไง กำลังกลัวจะสอบไล่แล้วก็ไม่ทราบว่าคราวนี้จะใกล้ไม่ใกล้ก็ต้องถือว่าถ้าอยากได้พร ก็ที่จริงพรสำหรับให้สอบไล่ได้นั้นน่ะเป็นสิ่งที่ทำได้ด้วยตนเอง ถ้าเรียนดีแล้วก็สอบไล่ได้แน่ คือว่าก็ให้พรให้มีความขมักเขม้นในการเรียนหนังสือ และให้จิตใจมั่นคงแข็งแรง ครูก็คงชอบคนที่เรียนดีแลวก็คงไม่ดุนัก แล้วก็คือว่าครูที่ดุนั่น เขาหวังว่าจะได้ให้ลูกศิษย์มีกำลังที่จะเรียน จะได้ไม่ละเลยการศึกษา แล้วก็นี่พูดเลยเถิดไปอีกแล้ว คงหิวก็เชิญรับประทานดีกว่า”

วันเข้าเฝ้าฯ
             เมื่อวันพุธที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๙ คณะอาจารย์ และนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประมาณ ๑,๒๐๐ คน ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์
             นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอย่างใกล้ชิด ค่ำวันนั้นเวลาประมาณ ๑๘.๔๕ น. บริเวณพระตำหนักซึ่งเคยสงบเงียบท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม กลับสว่างไสวไปด้วยประทีปโคมไฟ และเต็มไปด้วยเหล่าอาจารย์และนักศึกษาเป็นจำนวนพันที่ชุมนุมกันหน้าลานพระตำหนักรอเข้าเฝ้าล้นเกล้าล้นกระหม่อมทั้ง ๒ พระองค์ด้วยหัวใจอันเต้นระทึก ครั้นเวลา ๑๙.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ฯ ได้เสด็จออกประทับ ณ ระเบียงหน้ามุขพระตำหนัก ศาสตราจารย์ ดร.บัวเรศ คำทอง รองอธิการบดี ได้กราบบังคมทูลในนามของคณะอาจารย์ และนักศึกษาทั้งหลาย ถวายความจงรักภักดี และตั้งปณิธานที่จะอุทิศชีวิตเป็นราชพลี พร้อมทั้งขอรับพระราชทานพระบรมราโชวาท หลังจากนั้นรองอธิการบดีได้ทูลเกล้าฯ ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพร และพระบรมฉายาลักษณ์ในคราวเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ฑ.ศ.๒๕๐๘ ครั้นแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่คณะอาจารย์และนักศึกษาทั้งหลายอย่างเป็นที่ประทับใจยิ่ง
             หลังจากพระองค์ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทแล้ว บรรดานักศึกษาทั้งหลายได้ร่วมกันร้องเพลงสดุดีพระเกียรติ แล้วจึงแยกย้ายกันไปรับประทานอาหารตามร้านต่างๆ ซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นร้านอาหารนานาชนิด เรียงรายอยู่บนเนินเขาบริเวณพระตำหนัก ล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์และเจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ฯ ได้เสด็จนำรองอธิการบดีชมร้านอาหารต่างๆ เสร็จแล้วได้ประทับเสวยพระกระยาหารท่ามกลางบรรดาอาจารย์และนักศึกษาทั้งหลายอย่างไม่ถือพระองค์ เมื่อเสวยพระกายาหารไปได้สักครู่หนึ่ง วงดนตรีของนักศึกษาก็ได้บรรเลงเพลงถวายจำนวนหลายเพลง เมื่อเสวยพระกระยาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปที่วงดนตรีของนักศึกษาวงเปียโน และเจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ฯ ทรงร้องเพลงหลายสิบเพลง โดยมีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถประทับนั่งอยู่ท่ามกลางการห้อมล้อมอย่างใกล้ชิดของนักศึกษาทั้งหลาย และได้ตรัสถามถึงทุกข์สุขของนักศึกษาอย่างไม่ถือพระองค์ นับว่าเป็นภาพและเหตุการณ์ที่ตรึงตาและตรึงใจนักศึกษาทั้งหลายอย่างที่จะไม่มีวันลืมเลือนไปได้ จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ ๒๑.๑๕ น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ ได้เสด็จไปร่วมทรงเปียโนด้วยหนึ่งเพลง ยังความสนุกสนานและปรีดาปราโมทย์แก่คณะอาจารย์และนักศึกษาจนหาที่เปรียบมิได้ ครั้นแล้วล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์ พร้อมด้วยเจ้าฟ้าหญิงก็เสด็จขึ้นพระตำหนักโดยมีอาจารย์และนักศึกษาแวดล้อมส่งเสด็จจนถึงพระตำหนัก และได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น เหตุการณ์ครั้งนี้ จะจารึกอยู่ในดวงใจของชาว มช. ทุกคนอย่างไม่มีวันจะเลือนลาง

รายการอ้างอิง
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. แผนกประชาสัมพันธ์. (๒๕๐๙). พระบรมราโชวาท
            พระราชทานแก่นักศึกษา และอาจารย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
            ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๙.
            มช. ปริทรรศน์, ๒(๑๖), ๓-๕.
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.สำนักหอสมุด
เชียงใหม่
ntic@lib.cmu.ac.th
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.สำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ
เชียงใหม่
itsc@itsc.cmu.ac.th
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ผู้ให้ทุนสนับสนุน
2508
image/jpeg(.jpeg .jpe .jpg)
CMU-CM-CMU142
© มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ท่านอาจจะบันทึกหรือพิมพ์รูปภาพเพื่อการวิจัยและการศึกษาค้นคว้า ถ้าท่านต้องการใช้สำหรับวัตถุประสงค์อื่น ท่านต้องติดต่อสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อขออนุญาตใช้
 
สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
เว็บไซต์และฐานข้อมูลภาพล้านนาในอดีต โดย สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง

     
     
  Copyright © 2008 Northern Thai Information Center (NTIC), Chiang Mai University. All Rights Reserved.
239 Huay Kaew Rd., Mueang District , Chiang Mai, Thailand 50200
Tel. 0 5394 4514, 0 5394 4517
ntic@lib.cmu.ac.th
 
/* */